ผลการศึกษาชิ้นใหม่ของ Fielding School of Public Health แห่ง มหาวิทยาลัย UCLA สหรัฐอเมริกายืนยันว่าเตาแก๊สส่งผลร้ายต่อสุขภาพ หัวหน้าทีมวิจัย อี้ฟาง จู กล่าวว่า คนมักคิดว่าก๊าซคาร์บอนคือตัวการก่อ โลกร้อน และมองข้ามเครื่องใช้ในบ้านที่ใช้แก๊สซึ่งเป็นตัวก่อมลพิษทางอากาศที่สำคัญ
ผลการศึกษานี้ชี้ว่าไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของ PM 2.5 นั้นถูกปล่อยออกมาจากเตาแก๊สและไปเพิ่มความผิดปกติในระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบ หืด หายใจดัง ไอ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และหายใจไม่สะดวก ทั้งยังพบว่าผู้หญิงเผชิญไนโตรเจนไดออกไซด์มากกว่าผู้ชาย เพราะอยู่หน้าเตามากกว่า
ปัญหาอยู่ที่บ้านส่วนใหญ่ไม่ได้ติดตั้งเครื่องดูดควันหรือใช้เครื่องดูดควันที่ระบายอากาศได้ไม่มีประสิทธิภาพ ผลการศึกษาชิ้นนี้จัดทำในแคลิฟอร์เนียซึ่งพบว่า มีครัวเรือนน้อยกว่า 35% ที่ใช้เครื่องดูดควัน แม้ว่า จะติดตั้งไว้แต่ก็แทบไม่เปิดใช้งาน สาเหตุหลักเพราะเสียงดังหนวกหู และมีตัวกรองที่ถอดออกและทำความสะอาดยาก
เตาแก๊สปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์ และ ไนโตรเจนไดออกไซด์ ยิ่งบ้านมีพื้นที่เล็กมากเท่าไรก็ยิ่งมีก๊าซพิษเหล่านี้ อบอวลอยู่ในบ้านเท่านั้น คนที่อยู่ในอะพาร์ตเมนต์จะได้รับผลกระทบมากที่สุด
ถ้าทุกบ้านที่ใช้เตาแก๊สเปลี่ยนไปใช้เตาที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแบบสะอาดสิ่งที่จะเกิดขึ้นคือสารประกอบไนโตรเจนออกไซด์และ PM 2.5 จะลดลง ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตลดลง 354 ราย มีผู้ป่วยโรคหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน ลดลง 596 ราย และคนป่วยเป็นโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรังลดลงปีละ 304 รายในรัฐแคลิฟอร์เนีย
ผลการศึกษาบอกเป็นนัยว่า การเปิดเตาแก๊สทำอาหารทุกมื้อ ทุกวัน โดยไม่ติดตั้งหรือเปิดใช้งานเครื่องดูดควัน เท่ากับคุณ กำลังบ่อนทำลายร่างกายของตัวเองและคนในบ้านไปในทุก ๆ วันนั่นเอง