กำเนิดเทคโนโลยีทำความเย็น เพื่อการขนส่ง ‘วัคซีนโควิด-19’

Grid Brief

Pfizer-BioNTech คิดค้นวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้สำเร็จ 90%
วัคซีนโควิด-19 ต้องเก็บรักษาที่อุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียส เพราะวัคซีนจะเสื่อมคุณภาพ ถ้าอยู่ในอุณหภูมิสูงกว่านั้น
อุตสาหกรรมความเย็นต้องคิดค้นเทคโนโลยีใหม่อย่างเร่งด่วน เพื่อใช้ในการเก็บรักษาวัคซีนโควิด-19

ข่าวดีได้รับการเผยแพร่เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ.2563 ว่า Pfizer and BioNTech ได้ทดลองวัคซีนป้องกันโควิด-19 กับคน และมีประสิทธิภาพสูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ สร้างความยินดีให้ทั่วโลก แม้จะต้องอดทนรอไปอย่างน้อยถึงปลายปีหน้า หรือต้นปี พ.ศ. 2565

กระบอกฉีดยาที่มีเข็มฉีดยาวางเรียงหน้ากระดาน 5 อัน

เวลานี้มีบริษัทประมาณ 150 แห่งกำลังพัฒนาวัคซีนโควิด-19 นอกเหนือไปจากวัคซีน BNT162b2 ของ Pfizer ก็มี COVAXIN จากบริษัทอินเดียBharat Biotech, JNJ-78436735 ของ Johnson & Johnson, ChAdOx1 nCoV-19 โดยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ, CoronaVac ที่จีนร่วมทุนกับบราซิล หรือ Sputnik V ของรัสเซียที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ให้ลูกสาวฉีดวัคซีนนี้เป็นที่เรียบร้อย

วัคซีนโควิด-19 นี้จะต้องฉีดซ้ำ 2-3 ครั้งตามสูตรของแต่ละบริษัท แต่จำนวนครั้งที่ต้องฉีดได้กลายเป็นปัญหารองลงไป เมื่อปัญหาที่ใหญ่กว่านั้นก็คือจะขนส่งวัคซีนโควิด-19 นี้ให้ไปถึงประชากรทั่วโลกได้อย่างไร โดยที่วัคซีนยังไม่เสื่อมสภาพไปเสียก่อน

เทคโนโลยีทำความเย็นที่ใช้ตัวกำเนิดความเย็นไฟฟ้านี้ ยังช่วยให้รักษาอุณหภูมิให้คงที่ได้ตลอด โดยไม่ต้องใช้น้ำแข็งแห้ง จึงขนส่งทางอากาศได้อย่างปลอดภัย ทำให้สะดวกในการขนส่งไปยังพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลได้

ทั้งนี้ ปกติวัคซีนต้องเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส ซึ่งระบบขนส่งและระบบทำความเย็นที่การสาธารณสุขทั่วโลกใช้อยู่ในปัจจุบันยังไม่ได้มาตรฐานพอ เพราะยังมีวัคซีนเสื่อมสภาพไปถึงปีละ 25 เปอร์เซ็นต์

เมื่อบริษัท Pfizer แจ้งว่า วัคซีนโควิด-19 ของตนต้องเก็บที่อุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียส ทำให้ผู้คนในทวีปแอฟริกา อเมริกาใต้และบางส่วนของเอเชียรู้สึกถึงความหวังอันแสนริบหรี่ เพราะนอกจากจะอยู่ในภูมิประเทศที่กันดารและการคมนาคมลำบากแล้ว บางพื้นที่ของบางประเทศยังไม่มีแม้แต่ไฟฟ้าใช้

ที่ผ่านมาอาสาสมัครต้องแบกกระติกใส่น้ำแข็งแห้งเดินเท้า ปั่นจักรยานหรือนั่งรถจี๊ปไปตามทางลูกรังเพื่อเข้าไปฉีดวัคซีนให้ประชาชนตามหมู่บ้าน กว่าจะไปถึงหลังที่อยู่ท้าย ๆ น้ำแข็งแห้งก็ละลายหมดแล้ว ทำให้ชาวบ้านไม่ได้รับการฉีดวัคซีน จึงกล่าวได้ว่า การไม่มีไฟฟ้าใช้ถือเป็นหนึ่งในปัญหาสาธารณสุข

กลับมาที่วัคซีนโควิด-19 ที่ต้องเก็บรักษาในอุณหภูมิที่ต่ำมากถึง -70 องศาเซลเซียส

ตู้คอนเทนเนอร์เคลื่อนที่แบบไฮบริด — credit: MECOTEC

MECOTEC ผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีทำความเย็นของประเทศเยอรมนี ได้หาทางออกในการขนส่งวัคซีนโควิด-19 โดยคิดค้น Mobile Hybrid Container หรือตู้คอนเทนเนอร์เคลื่อนที่แบบไฮบริดที่สามารถขนส่งวัคซีนได้มากถึง 1 ล้านโดสต่อตู้ในอุณหภูมิ -80 องศาเซลเซียส ซึ่งใช้ตัวกำเนิดความเย็นไฟฟ้า 2 ตัวติดตั้งไปกับตู้คอนเทนเนอร์ นอกจากนี้ยังมีแบตเตอรีทำความเย็นและน้ำแข็งแห้งสำรองใส่ไปด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าวัคซีนจะถูกเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพในการใช้งานอย่างเต็มที่

เทคโนโลยีทำความเย็นที่ใช้ตัวกำเนิดความเย็นไฟฟ้านี้ ยังช่วยให้รักษาอุณหภูมิให้คงที่ได้ตลอด โดยไม่ต้องใช้น้ำแข็งแห้ง จึงขนส่งทางอากาศได้อย่างปลอดภัย ทำให้สะดวกในการขนส่งไปยังพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลได้

การขนส่งอาหารแช่แข็งด้วยระบบขนส่ง และ จัดเก็บสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain) เพื่อรักษาคุณภาพและช่วยลดการสูญเสียของสินค้า มีการเติบโตอย่างรวดเร็วมากในปัจจุบัน โดยในปี พ.ศ.2563 มีมูลค่าตลาดทั่วโลกอยู่ที่ 233.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 7 ล้านล้านบาท และจากการขนส่งวัคซีนโควิด-19 นี้ ทำให้มีการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมนี้จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดยิ่งขึ้นไปอีกใน 1-2 ปีข้างหน้านี้

Cover Illustration โดย ANMOM

ที่มา