จากฉบับที่แล้วที่เราคุยกันถึงเรื่องกล้องดิจิทัลคอมแพคคุณภาพสูงน่าใช้ประจำปี 2563-2564 ไป โดยเริ่มจากกล้องคอมแพคที่มาพร้อมกับเลนส์ซูม วันนี้เรามาคุยกันต่อกับกล้องคอมแพคที่มาพร้อมกับเลนส์ทางยาวโฟกัสเดี่ยว (Prime lens) กันบ้าง ซึ่งกล้องในกลุ่มนี้จะเป็นกล้องที่ได้รับความนิยมค่อนข้างเฉพาะ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ใช้งานที่เน้นคุณภาพของภาพเป็นหลัก ซึ่งเลนส์ทางยาวโฟกัสเดี่ยวจะสามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้ เพราะด้วยการออกแบบของเลนส์ที่สามารถถ่ายทอดความละเอียดได้สูง สีสันสมจริง และมีขนาดรูรับแสงที่กว้าง ทำให้ใช้งานได้ในหลากหลายสภาพแสง

กล้อง Fujifilm
credit: Fujifilm

Fujifilm X100V

เริ่มต้นกันด้วยกล้องหน้าตาสุดคลาสสิกจากฟูจิฟิล์มซีรี่ส์ X100 ซึ่งกล้องรุ่นแรกของซีรีส์นี้ได้เปิดตัวครั้งแรกตั้งแต่ปี 2553 หรือเมื่อกว่าหนึ่งทศวรรษมาแล้ว ในปี 2563 ที่ผ่านมา Fujifilm X100V ก็ได้ออกสู่ท้องตลาด มันเป็นกล้องรุ่นที่ 5 ของตระกูล การออกแบบทำให้นึกถึงกล้องเรนจ์ฟายน์เดอร์ (Rangefinder) ยุคเก่าเอามาก ๆ ฟูจิฟิล์ม X100V มีเซ็นเซอร์รับภาพขนาด APS-C ความละเอียด 26.1 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับเลนส์ฟิกซ์ 23 มม. f/2 (เทียบเท่า 35 มม.) ซึ่งให้ความคมชัดมากกว่ารุ่นเดิม มีหน้าจอทัชสกรีนขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 1.62 ล้านจุด สามารถปรับพลิกได้ ระบบโฟกัสที่ปรับปรุงให้เร็วและแม่นยำขึ้น สามารถ่ายวีดีโอได้ที่ความละเอียด 4K กล้องรุ่นนี้ยังมีแป้นปรับรูรับแสง ความเร็วชัตเตอร์ และความไวแสง ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก ให้ความรู้สึกคุ้นเคยกับผู้ใช้งานวัยเก๋า ช่องมองภาพของ X100V เป็นแบบ Hybrid ที่มีความสว่างมากและให้ภาพที่ไม่หน่วงเวลาเลย ตัวกล้องยังได้รับการซีลเพื่อป้องกันฝุ่นและละอองน้ำด้วย ด้วยคุณสมบัติที่น่าสนใจขนาดนี้ก็ต้องมีราคาที่สมน้ำสมเนื้อแน่นอน Fujifilm X100V ประกันศูนย์ไทย 1 ปี ราคาอยู่ที่ 48,990 บาท เท่านั้นเอง

คนถือกล้อง  Leica
credit: Leica

Leica Q2

พูดถึงกล้องและเลนส์ไลก้า แน่นอนว่าคุณภาพหายห่วง ราคาก็น่าใจหายเช่นกัน กล้อง Leica Q2 ตัวนี้ก็เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ของค่ายจุดแดงที่ทำออกมาได้ไร้ที่ติ ด้วยการออกแบบรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ของไลก้า คุณสมบัติที่จัดเต็มมาก เริ่มจากเซ็นเซอร์รับภาพขนาดฟูลเฟรมความละเอียดสูง 47 ล้านพิกเซล จับคู่กับเลนส์ Summicron 28 มม. f/1.7 ที่คมกริบ พร้อมระบบกันสั่น ช่องมองภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์ความละเอียดสูง 3.68 ล้านพิกเซล หน้าจอหลังขนาด 3 นิ้วแบบตายตัวความละเอียด 1.04 ล้านจุด ความไวแสง ISO 50 – 50000 สามารถถ่ายวีดีโอที่ความละเอียด 4K ความเร็วชัตเตอร์สูงสุด 1/2000 วินาที และอิเล็กทรอนิกส์ชัตเตอร์ที่ 1/40000 วินาที ตัวกล้องทำจากแมกนีเซียมอัลลอย ซีลกันละอองน้ำและฝุ่นที่ระดับ IP52 เสปกดีขนาดนี้ ถ้าเงินในกระเป๋าไม่ใช่ปัญหาก็จัดหามาใช้กันครับ สนนราคาอยู่ที่ 170,000 บาท แต่ใช่ว่าเงินพร้อมแล้วจะหาซื้อได้ เพราะเขาขึ้นชื่อเรื่องหาซื้อยากเช่นกัน

Fujifilm รุ่น XF10
credit: Fujifilm

Fujifilm XF10

ฟูจิฟิล์ม XF10 เป็นกล้องคอมแพคขนาดกะทัดรัดมาก ด้วยน้ำหนักตัวเพียง 280 กรัม ขนาดพอกับไอโฟนสี่สองเครื่องประกบกันเท่านั้นเอง XF10 มีเซ็นเซอร์รับภาพขนาด APS-C ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับเลนส์ฟิกซ์ 18.5 มม. f/2.8 (เทียบเท่า 28 มม.) ถ่ายวีดีโอได้ที่ความละเอียด 4K ไม่มีช่องมองภาพ ไม่ต้องซูมให้ยุ่งยาก ยกเล็งแล้วกดถ่ายก็ได้ภาพสวยเลย สนนราคาอยู่ที่ 16,990 บาทเท่านั้นเอง ประกันศูนย์ฟูจิฟิล์มประเทศไทย

กล้อง Ricoh GR III
credit: Ricoh

Ricoh GR III

กล้องตระกูล GR ของริโก้มีมาตั้งแต่สมัยฟิล์ม ตัวแรกสุดคือ Ricoh GR1 ซึ่งออกวางจำหน่ายในปี 1996 จากนั้นก็มีอีกหลายรุ่นเรื่อยมาจนถึงยุคดิจิทัล ตัวล่าสุดที่ออกวางจำหน่ายคือ Ricoh GR III ซึ่งยังคงเอกลักษณ์ความเป็น GR อย่างเหนียวแน่น คือ เป็นกล้องคอมแพคพรีเมียม ที่บาง เบาและใช้เลนส์ 28 มม. (หรือเทียบเท่า) Ricoh GR III ใช้เซ็นเซอร์ขนาด APS-C ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล ประกบกับเลนส์ 18.3 มม. f/2.8 (เทียบเท่า 28 มม.) พร้อมระบบกันสั่นแบบ 3 แกน หน้าจอทัชสกรีนขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 1.04 ล้านจุด ถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียด Full HD และสามารถชาร์จแบตเตอรี่ผ่านพอร์ต USB ได้ ท่านที่สนใจอาจจะหาซื้อยากสักหน่อยเพราะไม่ค่อยเป็นที่นิยมในไทยนัก สนนราคาอยู่ที่ 28,900 – 32,990 บาท เป็นราคาประกันศูนย์ไทย

เรื่องโดย: จุลล์ จูงวงศ์