ช่วงหน้าหนาวของทุกปี ราว ๆ ปลายเดือนธันวาคมไปจนถึงต้นเดือนมกราคม หนึ่งในดอกไม้สีหวานแห่ง “เหมันตฤดู” จะเบ่งบานอวดโฉมให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมกัน นั่นคือ “ดอกพญาเสือโคร่ง” (Wild Himalayan Cherry Tree) หลังจากที่ได้ทิ้งใบไปจนหมดต้นตั้งแต่ช่วงต้นเดือนธันวาคม ดอกไม้กลีบบางสีชมพูอ่อนก็จะบานสะพรั่ง ดูแล้วแทบไม่ต่างจากต้นซากุระของประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว หลายคนจึงได้เรียกขานกันว่า “ซากุระเมืองไทย”
หากมาเชียงใหม่ เราจะสามารถชมดอกพญาเสือโคร่งได้หลายที่ เริ่มตั้งแต่ทางทิศใต้ของเมือง ที่ดอยอินทนนท์ จะมีจุดชมพญาเสือโคร่งที่ขึ้นชื่อ ประกอบด้วย พระตำหนักดอยผาตั้ง ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีดอยอินทนนท์ และศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) เข้ามาเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ก็สามารถไปชมได้ที่ขุนช่างเคี่ยน แต่ที่ผู้เขียนโปรดปรานที่สุดคือ “สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง” ที่อยู่ทางทิศเหนือของเมืองเชียงใหม่ ใช้เวลาเดินทางประมาณสามชั่วโมง
สถานีเกษตรหลวงอ่างขางเป็นสถานีวิจัยแห่งแรกของโครงการหลวง เริ่มดำเนินงานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 1,500 บาท ซื้อที่ดินในบริเวณดอยอ่างขางเป็นสถานีวิจัย ศึกษาทดลองพืชเขตหนาวชนิดต่าง ๆ เพื่อเป็นตัวอย่างแก่เกษตรกรชาวเขาในการนำพืชเหล่านี้มาเพาะปลูกเป็นอาชีพแทนการปลูกฝิ่น
กว่าครึ่งศตวรรษที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขางได้ดำเนินการมาตามแนวพระราชดำริ นอกจากพี่น้องชาวไทยภูเขาที่ได้รับประโยชน์จากการขายผลผลิตพืชผักเมืองหนาวแล้ว นักท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ ก็พลอยได้ชื่นชมทิวทัศน์อันงดงามของสถานีเกษตรหลวงอ่างขางไปด้วย
เมื่อขับรถไต่ระดับความสูงไปถึงประมาณหนึ่งพันเมตรจากระดับน้ำทะเล เราจะเริ่มเห็นริ้วสีชมพูของดอกพญาเสือโคร่งแทรกอยู่กับสีเขียวของต้นสนสามใบและต้นไม้ใบหญ้าอื่น พอใกล้ถึง “โครงการหลวง” ก็จะมีต้นพญาเสือโคร่งสองข้างทางให้ชื่นชมกัน จอดรถหลบข้างทางเก็บภาพได้ พอเข้ามาใน “โครงการหลวง” บริเวณใกล้กับอาคารสโมสรอ่างขาง จะมีต้นพญาเสือโคร่งอีกหลายสิบต้น ถ้าสังเกตดี ๆ จะมีต้นที่เป็นสายพันธุ์ดอกสีขาวด้วย (หากผู้เขียนจำไม่ผิด จะมีอยู่หนึ่งต้นข้างอาคารผลผลิตฯ) นอกจากนั้นยังได้มีการนำต้นซากุระจากประเทศญี่ปุ่นมาปลูกด้วย ซึ่งดอกจะใหญ่กว่าและสีสันจะชมพูเข้มข้นกว่าพญาเสือโคร่งของเรา
นอกจากดอกพญาเสือโคร่งแล้ว ยังมีไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาวอีกมากมายหลายชนิดให้ได้ชมกัน รวมไปถึงแปลงปลูกบ๊วยยอดฮิตที่นักท่องเที่ยงต้องไปแวะชม รับรองว่าถ่ายภาพกันสนุกแน่นอน อาหารที่สโมสรอ่างขางก็อร่อยขึ้นชื่อ ไปถึงแล้วขอแนะนำให้ไปลองชิมให้ได้ข้อมูลสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง: www.royalprojectthailand.com
เรื่องและภาพถ่ายโดย จุลล์ จูงวงศ์