สร้าง ‘ป่าเล็ก’ ใน ‘บ้านใหญ่’ ด้วย Biophilic Design

Grid Brief

ถ้าคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้ เช่น ยกกระถางต้นไม้มาไว้ในบ้าน ชอบมองต้นไม้ นั่งฟังเสียงฝน หรือจุดเทียนหอมกลิ่นต้นสน ให้สันนิษฐานว่าคุณเป็นโรค ‘ใฝ่หาชีวภาพ’ ซึ่งเหมาะกับการตกแต่งบ้านในสไตล์ Biophilic Design
การจัดบ้านแบบ Biophilia Design มีผลต่อทุกโสตสัมผัส ทั้งการมองเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น และการสัมผัส ผ่านสิ่งของต่าง ๆ เช่น วอลเปเปอร์ลายดอกไม้ ผนังห้องสีเบจ ตะกร้าจักสาน กลิ่นเทียนหอม เสียงน้ำตกไหลริน
พระเอกของการตกแต่งบ้านในสไตล์นี้คือต้นไม้ ที่ให้ความรู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติต่อทุกประสาทสัมผัสของคุณ

ยิ่งเครียด ยิ่งใฝ่เขียว

เอริค ฟรอมม์ นักจิตวิเคราะห์ชาวเยอรมันให้นิยามศัพท์ที่มีรากมาจากภาษากรีก ‘Biophilia’ ไว้ว่า ‘ความปรารถนาของมนุษย์ที่เชื่อมโยงชีวภาพเข้ากับธรรมชาติ’ ซึ่งไม่ใช่เพื่อการมีชีวิตรอด แต่เพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งเหมาะกับยุคปัจจุบันที่ผู้คนเครียดจากโลกภายนอก จึงต้องการ ‘บ้าน’ ที่นอกจากให้ความรู้สึกปลอดภัยทั้งทางกายและใจแล้ว ยังให้ความสงบและรื่นรมย์ในชีวิตได้ด้วย

ภาพวาดผู้หญิงนั่งบนเตียง หัวเตียงมีกระถางต้นไม้ทั้งสองข้าง

ดังนั้น Biophilia Design สไตล์การจัดบ้านที่ใช้พลังธรรมชาติในการบำบัดชีวิตอย่างไร้ขีดจำกัด จึงเป็นกระแสมาแรงในแวดวงออกแบบและตกแต่งบ้านของปีนี้

อยู่ ‘เย็น’ กับธรรมชาติ

หลักสำคัญของการจัดบ้านในสไตล์ Biophilia Design คือการดึงธรรมชาติและมนุษย์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน ผ่านการเชื่อมโยงกันทางประสาทสัมผัสส่วนต่าง ๆ ดังตัวอย่างต่อไปนี้

อุณหภูมิ – การอุทิศพื้นที่ส่วนหนึ่งของบ้านให้ได้รับบรรยากาศภายนอกจริง ๆ โดยไม่มีเครื่องปรับอากาศ เช่น ห้องที่อยู่ติดกับสวนหรือระเบียงบ้าน ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้จะเป็นมุมส่วนตัวที่ให้คุณได้สงบและผ่อนคลายโดยไม่มีใครรบกวน
แสง – ติดช่องรับแสง (Skylight) ที่หลังคา โดยใช้วัสดุที่มีลักษณะโปร่งแสง เช่น กระจกนิรภัย กระจกลามิเนต กระจกเทมเปอร์หรือไฟเบอร์กลาส แทนการมุงด้วยกระเบื้องในบางมุมของบ้าน เช่น ห้องครัว ห้องน้ำหรือบันได แล้วบ้านของคุณจะสว่างขึ้นแต่ค่าไฟลดลง หรือให้ง่ายกว่านั้นก็แค่เปิดประตูหรือหน้าต่างให้กว้าง เพื่อรับแสงแดดที่มีวิตามินดีที่ช่วยบำบัดอาการเซื่องซึมได้เป็นอย่างดี

รูปทรง – เลือกของแต่งบ้านรูปทรงธรรมชาติ เช่น กระเบื้องรูปทรงรวงผึ้ง ก๊อกน้ำทรงกิ่งไม้ โต๊ะเล็กทรงกรวด หรือวอลเปเปอร์ลายดอกไม้ เป็นต้น
ผิวสัมผัส – ตกแต่งบ้านด้วยวัสดุจากธรรมชาติ เช่น เฟอร์นิเจอร์ไม้ ของใช้ที่เป็นงานจักสานจากหวาย ผักตบชวา ไม้ไผ่ กก งานถักทอเส้นใยธรรมชาติ งานปั้นดิน
กลิ่น – ทำให้บ้านหอมอวลด้วยกลิ่นธรรมชาติ เช่น จุดเทียนหอม ฝานส้ม มะนาวหรือมะกรูดแช่ในแก้วน้ำวางไว้ในห้อง
สี – ทาสีห้องหรือเลือกของตกแต่งบ้านด้วยสีเอิร์ธโทน ซึ่งเป็นสีสันของธรรมชาติ เช่น สีเขียวขี้ม้า สีเบจ สีน้ำตาล สีเทา สีแทน สีคราม เป็นต้น

เสียง – ASMR (Autonomous Sensory Meridian Response: การตอบสนองต่อการรับรู้ของระบบประสาทที่มีต่อความรู้สึกโดยอัตโนมัติ) ได้แก่ เสียงในธรรมชาติที่ช่วยสร้างสมาธิ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เช่น เสียงนก เสียงน้ำไหล เสียงฝน เสียงคลื่น หากในบ้านไม่เอื้อให้ทำม่านน้ำตก บ่อน้ำพุ สวนน้ำล้น เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเสียงธรรมชาติมาฟังก็ช่วยได้

อากาศ – องค์การนาซารับรองแล้วว่าทุกคนควรหาต้นไม้มาประดับ ‘ใน’ บ้าน เพื่อช่วยฟอกอากาศและลดการกระตุ้นการเกิดภูมิแพ้ เช่น ต้นเศรษฐีเรือนนอก พลูด่าง เดหลี เขียวหมื่นปี ว่านหางจระเข้ เยอร์บีร่า เบญจมาศ ไอวี่ ลิ้นมังกร จั๋งและหมาก

ที่มา