ก่อนอื่นต้องขอกล่าวทักทายผู้อ่านที่รักการถ่ายภาพทุกท่าน นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้พบกันในรูปแบบดิจิทัล ในโอกาสที่ PEA ก้าวสู่ปีที่ 60 “นิตยสาร GRID (โดยสายใจไฟฟ้า)”
ได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบให้ทันสมัยยิ่งขึ้น และกิจกรรมช่างภาพสมัครเล่น PEA ของเราก็ได้รับพื้นที่เล็ก ๆ แห่งใหม่ในโลกออนไลน์ ซึ่งจะเป็นที่ที่เราได้มาพูดคุย แลกเปลี่ยน ข้อมูล ข่าวสารต่าง ๆ ได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น เนื้อหาในส่วนของ “PEA Photo Club” จะยังคงเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการถ่ายภาพ แต่จะหลากหลายมากขึ้น ทั้งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับอุปกรณ์ถ่ายภาพ กล้อง เลนส์ แบ่งปันแนวคิดและวิธีการถ่ายภาพ และสารพันเรื่องราวการเดินทางเพื่อแสวงหาและสร้างสรรค์ภาพสวย
ในปีนี้แม้ว่าสถานการณ์จะไม่ค่อยดีนัก จนส่งผลให้การเดินทางท่องเที่ยวถ่ายภาพเป็นไปได้ยาก หรืออาจจะทำไม่ได้เลย โดยเฉพาะการเดินทางออกนอกประเทศ
ฝั่งผู้ประกอบการเองก็ได้รับผลกระทบบ้างทั้งต่อสายพานการผลิตและการจัดจำหน่าย แต่วงการถ่ายภาพก็ยังมีข่าวที่น่าตื่นเต้นออกมาต่อเนื่อง อย่างการเปิดตัวกล้องมิลเรอร์เลสฟูลเฟรม (Full-Frame Mirrorless) พร้อมเลนส์ใหม่ จากค่ายกล้องยักษ์ใหญ่ทั้งสี่ คือ Canon, Nikon, Sony และ Panasonic ที่กำลังจะเปิดประตูไปสู่ความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ในการสร้างสรรค์ภาพ
หลังจากที่ปล่อยให้คู่แข่งแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดอยู่พักใหญ่ แคนอนก็ได้เปิดตัวกล้อง Full-frame mirrorless สองรุ่นใหม่ นั่นคือ Canon EOS R5 และ Canon EOS R6 ที่มีคุณสมบัติและฟังก์ชั่นการทำงานที่โดดเด่นมาก โดย EOS R5 มาพร้อมเซ็นเซอร์ความละเอียดสูง 45 ล้านพิกเซล และถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียด 8K ส่วน EOS R6 มีเซ็นเซอร์ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล แต่สามารถโฟกัสในที่แสงน้อยมากได้ดีเหลือเชื่อ (EV -6.5) ทั้งคู่มีระบบกันสั่นในตัว ซึ่งเป็นกล้องรุ่นแรกของแคนนอนที่มีฟีเจอร์นี้ และสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 20 ภาพต่อวินาที
นอกจากนั้นยังมีเลนส์ที่เปิดตัวพร้อมกันอีก 4 ตัว ที่น่าสนใจและประหลาดใจที่สุด คือ เลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ (Super Telephoto) 2 ตัว นั่นคือ Canon RF 600mm F11 IS STM และ Canon RF 800mm F11 IS STM ซึ่งมาพร้อมกับรูรับแสงกว้างสุดที่ f/11 และยังคงที่อีกด้วย ถ้าเทียบกับเลนส์ 600 มม. เดิมของแคนนอนเองจะมีรูรับแสงกว้างสุดที่ f/4 ส่วนเลนส์ 800 มม. จะอยู่ที่ f/5.6 ซึ่งทั้งสองตัวมีน้ำหนัก 3.05 กิโลกรัมและ 4.5 กิโลกรัมตามลำดับ และราคาประมาณสี่แสนบาท แต่เลนส์สองตัวใหม่มีน้ำหนักเพียง 930 กรัม และ 1260 กรัมเท่านั้นเอง แถมยังมีระบบกันสั่นด้วย ซึ่งเมื่อใช้งานร่วมกับกล้อง EOS R5 และ R6 ที่ได้รับการออกแบบมาให้ทำงานในสภาพแสงน้อยได้ดี ก็จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและคล่องตัวอย่างมาก
หลังจากแคนนอนเปิดตัวไปเพียงห้าวัน สหายร่วมวงการอย่างนิคอนก็ได้เปิดตัวกล้อง Full-frame mirrorless ตัวใหม่ออกมาเช่นกัน นั่นก็คือ Nikon Z5 ซึ่งถูกวางตัวมาเป็นกล้องรุ่นเริ่มต้นราคาไม่แพง แต่ดูเสปกแล้วน่าใช้ไม่เบา แถมราคาก็อยู่ประมาณสี่หมื่นกลาง ๆ เท่านั้นเอง โดย Z5 มากับเซ็นเซอร์รับภาพความละเอียด 24.3 ล้านพิกเซล ระบบกันสั่น 5 แกน ถ่ายวีดีโอที่ความละเอียด 4K 30p และช่องใส่การ์ดแบบ Dual SD Cards
หลังจากการเปิดตัวของ Z5 หนึ่งสัปดาห์เป๊ะ ๆ โซนี่ผู้ครองตลาดกล้อง Full-frame mirrorless ก็ไม่ยอมน้อยหน้า เปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ที่โฟกัสไปที่การถ่ายวีดีโอ นั่นก็คือ α7S III ซึ่งมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ความละเอียด 12.2 ล้านพิกเซล ถึงจะมีความละเอียดไม่มาก แต่ก็เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ มีช่วงความไวแสง (ISO) และไดนามิก (Dynamic Range) กว้างมาก โดยสามารถตั้งความไวแสงได้ตั้งแต่ ISO 40 ถึง ISO 409600 เลยทีเดียว และเนื่องจากเซ็นเซอร์รับภาพมีพิกเซลขนาดใหญ่ จึงมีสัญญาณรบกวน (Noise) ต่ำด้วย
และล่าสุดเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมานี้เอง พานาโซนิคก็ได้เปิดตัว Panasonic Lumix DC-S5 กล้อง Full-frame mirrorless ขนาดกะทัดรัดในตระกูลเมาท์ L (L-Mount เป็นเมาท์เลนส์ที่ใช้ร่วมกันระหว่าง Leica, Sigma และ Panasonic) หลังจากที่เปิดตัว S1, S1R และ S1H ไปเมื่อปีที่แล้ว ซึ่ง S5 ที่เพิ่งเปิดตัวนี้ก็จะมีราคาย่อมเยาว์ลงมาพอสมควร อยู่ที่ประมาณเจ็ดหมื่นบาทเท่านั้น เสปกโดยรวมสูสีกับ Z5 ของนิคอน แต่จะมีความสามารถในการบันทึกไฟล์วีดีโอที่เหนือกว่า
จะเห็นได้ว่าวงการถ่ายภาพของเราไม่ได้เงียบเหงาไปตามสภาพเศรษฐกิจโลก แต่มีกล้องและเลนส์ที่น่าสนใจออกสู่ท้องตลาดมากมาย ซึ่งตัวผมเองมีโอกาสได้ไปลองจับดูแล้วหลายรุ่น จนรู้สึกหวั่นใจว่าจะได้เปลี่ยนเครื่องมือเก็บภาพส่วนตัวเร็ว ๆ นี้
เรื่องโดย จุลล์ จูงวงศ์
ภาพประกอบโดย Pattanaphoom P.