อียิปต์ประกาศตัวเป็นต้นแบบ E-Mobility ในทวีปแอฟริกา หลังเซ็นสัญญาก่อสร้างรางรถไฟฟ้าความเร็วสูงเป็นระยะทาง 2,000 กิโลเมตรกับ Siemens ซึ่งโครงการระดับเมกะโปรเจ็กต์นี้จะทำให้อียิปต์มีเครือข่ายรางรถไฟความเร็วสูงที่ทันสมัยเป็นอันดับ 6 ของโลก
เส้นทางรถไฟฟ้าความเร็วสูง 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในระยะทาง 2,000 กิโลเมตร จะเชื่อมโยงเมืองต่าง ๆ ในอียิปต์ราว 60 เมืองเข้าด้วยกัน ในการเดินทางประมาณ 500 ล้านครั้งต่อปี ยังผลให้ประชาชนในอียิปต์ 90 เปอร์เซ็นต์เข้าถึงการเดินทางที่ฉับไวและปลอดภัย อีกทั้งการเป็นรถไฟฟ้าความเร็วสูง จึงช่วยลดเวลาในการเดินทางลง 50 เปอร์เซ็นต์ และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับการสัญจรทางรถยนต์และรถประจำทางที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน อียิปต์จึงมีระบบรางที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมการก่อสร้างเมกะโปรเจ็กต์มูลค่า 87,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐนี้ จะทำให้มีการจ้างงานโดยตรง 40,000 อัตราในอียิปต์ เมื่อรวมกับซัพพลายเออร์ในส่วนต่าง ๆ นอกเหนือจากการก่อสร้างอีก 6,700 อัตรา
นอกจากทาง Siemens จะนำรถไฟฟ้าความเร็วสูงมาหลายโบกี้แล้ว ยังสร้างชานชาลาดิจิทัล เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ สถานีดิจิทัล และระบบบริหารจัดการด้านพลังงานหมุนเวียนมาสู่ประเทศอียิปต์ ซึ่งตั้งเป้าใช้พลังงานหมุนเวียนให้ได้ 42 เปอร์เซ็นต์ภายใน พ.ศ. 2578 โครงการนี้ยังแสดงให้ประเทศอื่น ๆ ในทวีปแอฟริกา ได้เห็นตัวอย่างของการสร้างเครือข่ายการเดินทางที่ใช้พลังงานไฟฟ้าหรือ E-Mobility ซึ่งจะเป็นวิธีการสัญจรหลักในอนาคตไปทั่วโลก