บิลล์ เกตส์ เรียกร้องให้อุตสาหกรรมโลหะหันมาผลิตโลหะสายพันธุ์ใหม่ที่เรียกว่า ‘โลหะสีเขียว’ หรือ Green Steel ที่กระบวนการผลิตเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ข้อเรียกร้องของบิล เกตส์ได้รับการตอบรับทันควัน เมื่อบริษัทผลิตโลหะสัญชาติสวีเดน ‘H2 Green Steel’ ประกาศว่าจะเป็นผู้นำการผลิตโลหะสีเขียวของโลกภายใน พ.ศ.2573
H2 Green Steel แตกต่างจากบริษัทโลหะอื่น ๆ ตรงที่กระบวนการผลิตจะไม่มีการใช้น้ำมัน แต่จะเริ่มเดินสายพานผลิตโดยใช้พลังงานกรีนไฮโดรเจน และจะเป็นผู้สร้างโรงงานผลิตกรีนไฮโดรเจนที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย
เหตุผลที่ H2 Green Steel หันมาผลิตโลหะสีเขียวก็เป็นความพยายามหนึ่งในการแก้ปัญหาโลกร้อนของทุนใหญ่ โดยซีอีโอของบริษัทกล่าวว่า อุตสาหกรรมโลหะถือว่าเป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำที่เชื่อมโยงกับหลาย ๆ อุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมผลิตซีเมนต์ไปจนถึงการผลิตรถยนต์ ด้วยเหตุนี้ถ้าอุตสาหกรรมโลหะขยับไปใช้พลังงานสะอาด ก็จะส่งผลด้านบวกต่ออุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้มากและรวดเร็ว
บริษัทจะเริ่มเปิดสายพานการผลิตใน พ.ศ.2567 ทางตอนเหนือของสวีเดน และตั้งเป้าว่าจะผลิตโลหะสีเขียวป้อนเข้าสู่ตลาดได้ปีละ 5 ล้านตัน
อุตสาหกรรมโลหะโดยเฉพาะในส่วนที่ผลิตเหล็กและเหล็กกล้าปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ปีละ 2.6 กิกะตันต่อปี หรือ 2.6 ล้านล้านกิโลกรัม ซึ่งการผลิตเหล็กกล้าใช้ถ่านหินมากที่สุด ขณะที่โรงงานผลิตกรีนไฮโดรเจนของ H2 Green Steel มีกำลังการผลิตพลังงานสะอาดได้ 800 เมกะวัตต์ ทำให้เกิดการใช้กรีนไฮโดรเจนแทนที่น้ำมันได้ในปริมาณมาก
Bank of America วิเคราะห์ว่า ภายในพ.ศ. 2593 พลังงานไฮโดรเจนจะแทนที่น้ำมันได้ 25 เปอร์เซ็นต์