Grid Brief
- เคล็ดลับการจัดบ้านให้เป็นระเบียบเสมอ ทำได้ไม่ยาก เริ่มจากการวาดภาพบ้านในฝันของคุณ จากนั้นให้กำหนดว่าแต่ละห้องคือห้องอะไร เช่น ห้องครัว ห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือห้องออกกำลังกาย
- เมื่อทราบแล้วว่าแต่ละห้องคือห้องอะไร คุณก็เพียงแค่ต้องจัดให้ของที่อยู่ในห้องนั้นตรงตามวัตถุประสงค์ของห้อง เพียงเท่านี้ก็จะไม่มีข้าวของที่อยู่ผิดที่ผิดทางอีก
ถ้ารู้สึกว่าการจัดบ้านคืองานหนักที่ต้องอุทิศแรงกายและเวลามหาศาล จนสุดท้ายกลายเป็นข้ออ้างให้คุณหน่ายใจที่จะทำอยู่เสมอ นั่นอาจเป็นเพราะคุณเริ่มต้นไม่ตรงจุด หรือจัดบ้านผิดวัตถุประสงค์ก็เป็นได้
ทั้งนี้ บ้านจะมองดูรกอยู่วันยังค่ำและต้องคอยจัดเก็บไม่จบสิ้น หากคุณยังไม่ได้ ‘หาหน้าที่ให้แต่ละห้องในบ้าน’
หน้าตาของบ้านในฝัน
ก่อนลงมือจัดบ้านหรือย้ายเข้าบ้านใหม่ คุณควรถามและต้องตอบตัวเองให้ได้เสียก่อนว่า ‘บ้านในฝันของฉันเป็นแบบไหน’ หรือ ‘ฉันใช้ชีวิตอย่างไรในบ้านนี้’
ให้เวลาตัวเองค่อยๆ จินตนาการไปทีละห้องว่าอยากให้มีหน้าตาเป็นอย่างไร ตัวคุณเองและสมาชิกในครอบครัวอยู่ในห้องนั้นๆ ด้วยความรู้สึกอย่างไร และจะทำกิจกรรมอะไรในแต่ละห้องบ้าง
อาจเป็นภาพลูกๆ เล่นของเล่นและอ่านหนังสือในห้องเพลย์รูมในบรรยากาศแคมป์ปิ้ง ภรรยาเล่นพิลาทีสในยิมเล็กๆ ส่วนตัวในบ้าน สามีอบขนมในครัวฝรั่งที่มีหม้อกระทะแขวนเหนือโต๊ะยาว ครอบครัวกินของว่างในสวนเล็กๆ ริมระเบียง ฯลฯ
การจินตนาการภาพเหล่านี้จะช่วยให้คุณวางแผนว่าจะใช้พื้นที่อย่างไรให้เป็นสุข เพราะบ้านคือสถานที่ที่ควรจะอยู่แล้วสุขกายสบายใจที่สุด
ถ้าคุณพบว่าตัวเองหายใจโปร่งโล่งขึ้น สนุกกับการแยกประเภทของ หรือเมื่อออกมาข้างนอกก็รู้สึกอยากกลับบ้านไวๆ แสดงว่าคุณจัดบ้านตรงภาพที่ฝันไว้ และใช้ห้องต่างๆ ตรงตามหน้าที่ของมันแล้วในที่สุด
หาหน้าที่ให้ห้อง
สิ่งที่คุณต้องทำในลำดับถัดมาคือความชัดเจนว่า ห้องนั้นๆ เอาไว้ทำอะไร มีประโยชน์ใช้สอยแบบไหน คุณควรนิยามหน้าที่ของแต่ละห้องอย่างกระชับและกระจ่าง เพื่อให้หน้าที่ของห้องนั้นๆ ช่วยให้คุณสะดุดใจถามตัวเองเสมอว่า ของชิ้นนี้ควรอยู่ในนั้นหรือไม่
การหาหน้าที่ให้ห้องใช้หลักการเดียวกันกับป้ายร้านค้าริมถนนในต่างจังหวัดที่บอกชัดเจนว่าขายอะไร เช่น ‘ปลวก’ คุณเข้าใจได้ใน 1 วินาทีว่ารับกำจัดปลวก หรือ ‘ยาง’ ก็รับรู้ได้ทันควันว่าเป็นร้านรับปะยาง หรือ ‘ยา’ เห็นแวบเดียวก็รู้ว่าคือร้านขายยา หรือ ‘หนู งู ปู’ ไม่ต้องถามถึงสัตว์ชนิดอื่นเลยเมื่อแวะแผงข้างทางนี้ เป็นต้น
ลองใช้กลยุทธ์นี้มาปรับใช้กับห้องหรือพื้นที่ต่างๆ ในบ้านบ้าง เช่น ‘ครัว’ มีไว้ทำกับข้าว ของเล่นลูกหรือผงซักฟอกก็ไม่ควรอยู่ในห้องนี้ ‘นอน’ ห้องนี้มีไว้นอน ฉะนั้น อย่าเอางานมาทำหรือกินขนมบนเตียง ‘อาบ/ขับถ่าย’ คือห้องที่ใช้อาบน้ำและทำธุระส่วนตัว บ้านไหนมีชั้นวางหนังสือข้างชักโครกถือว่าผิดกติกานี้ ‘ยิม’ คือพื้นที่ออกกำลังกาย ใครตากผ้าที่เครื่องยกน้ำหนักหรือเอาหนังสือมาตั้งบนลู่วิ่งแปลว่าใช้งานผิดวัตถุประสงค์ หรือ ‘เสื้อผ้า’ ถ้ามีข้าวของอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในหมวดหมู่เครื่องแต่งกาย เช่น แก้วน้ำ แล็ปท็อป จักรยานหรืออาหารแมว ก็ต้องยกย้ายออกไปจากห้องนี้ เป็นต้น
ถ้าคุณพบว่าตัวเองหายใจโปร่งโล่งขึ้น สนุกกับการแยกประเภทของ หรือเมื่อออกมาข้างนอกก็รู้สึกอยากกลับบ้านไวๆ แสดงว่าคุณจัดบ้านตรงภาพที่ฝันไว้ และใช้ห้องต่างๆ ตรงตามหน้าที่ของมันแล้วในที่สุด