Grid Brief

  • Jensen Huang (เจนเซน หวง) ซีอีโอ Nvdia บริษัทที่มีมูลค่าถึง 3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐได้บทเรียนที่ทำให้เขาไม่เกี่ยงงานและไม่กลัวความเหนื่อยยากจากอาชีพคนล้างจาน และเป็นนักบริหารเวลาขั้นสุดยอดมาจากคนดูแลสวนมอสส์ที่อุทิศทำสิ่งที่มีความหมายต่อชีวิต งานจึงสำเร็จและมีเวลาเหลือเฟือ

Jensen Huang (เจนเซน หวง) ชายชาวไต้หวันที่พ่อแม่พาอพยพมาอยู่เมืองไทยสมัยเด็ก ก่อนจะย้ายไปหาโอกาสใหม่ในสหรัฐอเมริกา ใช้เวลาถึง 31 ปีกว่าจะทำให้ Nvdia (เอ็นวีเดีย) บริษัทที่เขาร่วมก่อตั้งขึ้น ซึ่งไม่มีใครอ่านชื่อออกให้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงถึง 3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ แซงหน้า Google และ Apple เป็นเพราะทุกธุรกิจในโลกล้วนต้องพึ่งพาหนึ่งในธุรกิจของ Nvdia ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ข้อมูล เกม แพลตฟอร์มเมตาเวิร์ส ชิปเซ็ตในยานยนต์ หรือระบบที่ช่วยให้ AI ประมวลได้เร็ว

หลักการทำงานที่ส่งให้เจนเซนเป็นท่านประธานองค์กรที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ล้วนมาจาก ‘งานเล็ก ๆ’ ที่คนมองข้าม เจนเซน หวง เผยอย่างไม่หวงวิชาว่า เขาได้เรียนรู้อะไรมาบ้างจากงานคนล้างจานและงานคนสวน 

  1. ไม่มีงานใดที่ต่ำต้อย

สมัยวัยรุ่น เจนเซนหาเลี้ยงตัวเองด้วยงานพาร์ตไทม์ที่ร้านอาหาร Denny’s ซึ่งเขารับหน้าที่เป็นพนักงานฝ่าย ‘ล้าง’ ของร้าน ตั้งแต่ล้างจานไปจนถึงล้างห้องน้ำ ซึ่งเป็นงานหนัก เหนื่อย และสกปรกที่ไม่มีใครอยากทำ แต่เมื่อครั้งที่เจนเซนไปพูดที่ Stanford Graduate School of Business เขาบอกว่า “ไม่มีงานไหนที่ต่ำต้อยสำหรับผม จำไว้ว่าผมเคยเป็นคนล้างจาน ผมเคยล้างห้องน้ำ และผมทำความสะอาดห้องน้ำมาเยอะกว่าที่ทุกคนเคยทำมารวมกันเสียอีก” 

เจนเซน กล่าวว่า ประสบการณ์นั้นประกอบสร้างให้รูปแบบการทำงานของเขาในทุกวันนี้ คือลงมือแก้ปัญหาร่วมกับพนักงาน เขายึดคติเดิมว่า “ไม่มีงานไหนที่ต่ำต้อยสำหรับผม ถ้าคุณเอางานมาให้ผมแก้ไข ผมก็จะทำอย่างสุดความสามารถ และทำให้คุณเห็นว่าผมจะทำงานนั้นอย่างไร” 

และก็เป็นที่ร้าน Denny’s นี้เองที่เจนเซนได้เจอกับหุ้นส่วนที่เหนื่อยด้วยกันมา และรวมหัวกันก่อตั้ง Nvdia บริษัทมูลค่า 3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในวันนี้ 

Credit: NVIDIA Taiwan
  1. คุณไม่จำเป็นต้องชอบงานที่ทำตลอดเวลา แต่จงรักงานที่ทำเสมอ

คนมักจะคิดว่า งานที่ดีที่สุดคืองานที่ทำแล้วมีความสุขตลอดเวลา “แต่ผมไม่เห็นด้วย” เจนเซนกล่าว เขาเชื่อว่าความรู้สึกเติมเต็มและความรู้สึกซาบซึ้งที่แท้จริงมาจากการผ่านความท้าทายและฝ่าฟันอุปสรรคมาได้ต่างหาก 

“เมื่อคุณอยากสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ มันไม่ง่ายหรอก และเมื่อทำสิ่งที่ไม่ง่าย ก็ไม่ได้ทำให้คุณมีความสุขตลอดเวลา” เจนเซนกล่าวถึงการเป็นประธานบริษัทเทคโนโลยีอย่างยาวนานที่สุดในโลกถึง 31 ปีต่อเนื่องกันว่า “ผมไม่ได้ชอบงานที่ผมทำทุกวัน ไม่ใช่ทุกวันจะมีความสุข และความสุขก็ไม่ใช่สิ่งที่นิยามวันที่ดีด้วย แต่ผมรักงานที่ผมทำทุกวินาที” 

  1. คนจัดสวนมอสส์ญี่ปุ่นกับบทเรียนเรื่องเวลา

ครั้งหนึ่งเจนเซนเดินทางไปเยี่ยมชมสวนมอสส์ชื่อดังที่วัดเงิน หรือวัดกิงคะคุจิ ในเมืองเกียวโต ซึ่งอาณาบริเวณของสวนมอสส์ที่วัดแห่งนี้ใหญ่โตมาก เต็มไปด้วยความเขียวสดงดงามของมอสส์เกือบทุกสายพันธุ์จากทั่วโลก โดยมีคนดูแลสวนเพียงแค่คนเดียว

โชคดีที่เจนเซนได้พบกับคนดูแลสวนมอสส์ ซึ่งใช้ไม้ไผ่คีบมอสส์ที่ตายแล้วออกจากมอสส์เขียวสด เป็นงานที่ต้องพิถีพิถันใส่ใจอย่างยิ่ง จนในสายตาของเจนเซนนั้นราวกับคนดูแลสวนเหมือนทำท่าคีบมอสส์ที่มีอยู่ในจินตนาการ 

เจนเซนเดินเข้าไปถามอย่างสงสัยว่าชายคนนั้นกำลังทำอะไร เขาตอบว่า “ผมดูแลสวนของผมอยู่” และยังบอกด้วยว่าเขาดูแลสวนมอสส์นี้คนเดียวมา 25 ปีแล้ว  

Credit: Jensen Huang

เจนเซนกลับออกจากสวนมอสส์พร้อมบทเรียนอันลึกซึ้งที่ว่า เมื่อเราอุทิศตนทำสิ่งสำคัญต่อชีวิต เราจะมีเวลามากมายทำสิ่งนั้น เพราะเราจะไม่รู้สึกเหมือนทำงาน แต่กำลังทำสิ่งที่มีคุณค่าและมีความหมายสำหรับเรา ดังนั้น เราจะทุ่มเทเวลาให้กับสิ่งนั้นอย่างไม่อิดเอื้อน เหมือนคนชอบเล่นเกมที่เล่นเกมชนิดไม่ยอมหลับยอมนอน 

คนดูแลสวนมอสส์ยังมอบบทเรียนให้เจนเซนด้วยว่า เมื่อตื่นมาในทุก ๆ วัน เราควรจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องทำเสียก่อน ดังนั้น เจนเซนจึงมีกิจวัตรซ้ำเดิมทุกวัน คือสิ่งสำคัญที่สุดก่อน เมื่อนั้นเราจะรู้สึกเหมือนได้ทำงานเสร็จสิ้นแล้ว และสามารถใช้เวลาที่เหลือของวันช่วยเหลือผู้อื่น แต่หากเราไม่เรียงลำดับสิ่งสำคัญที่ต้องทำ เราจะรู้สึกเหมือนทำอะไรไม่เสร็จสักอย่าง มีงานค้างก่ายกองเป็นภูเขา ซึ่งนำไปสู่ความเครียด ไร้ความสุข และภาวะหมดไฟในที่สุด 

เจนเซนแนะนำให้เราจดรายการสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวัน แล้วให้คะแนนความสำคัญของแต่ละงานจาก 1 ถึง 10 เพื่อฝึกการจัดสรรแบ่งเวลา และจะทำให้เราค้นพบด้วยว่า มีสิ่งสำคัญใดที่เราอาจมองข้ามไปหรือเปล่า นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงกิจวัตรในแต่ละวันของเราให้ดีขึ้นได้ 

“เวลามีคนมาขอโทษที่รบกวนเวลา ผมจะตอบเสมอว่า ‘ผมมีเวลาเหลือเฟือ’ และผมหมายความตามนั้นจริง ๆ” เจนเซนกล่าว


รูปโดย NVIDIA Taiwan