มีผู้ใช้รถจำนวนไม่น้อยที่อยากหันไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือรถอีวีใจจะขาด ทว่า ก็อดกังวลใจไม่ได้ว่าจะหาสถานีชาร์จประจุไฟฟ้าได้ยาก ทำให้ใช้รถในระยะทางไกลไม่สะดวก ฯลฯ
ด้วยเหตุนี้ MG ในฐานะค่ายรถยนต์สัญชาติอังกฤษที่มาเปิดตลาดรถพลังงานไฟฟ้าในไทยด้วยรถรุ่น MG ZS EV, MG HS PHEV และ MG EP เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ใช้รถ ปีนี้ MG เดินหน้าสร้าง ‘ระบบนิเวศรถพลังงานไฟฟ้า’ ให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนในประเทศไทย
ที่ผ่านมา MG ลงนามความร่วมมือกับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) การไฟฟ้านครหลวง (MEA) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) ในการร่วมกันขยายสถานีชาร์จเพื่อรองรับจำนวนยานยนต์ไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยล่าสุด สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้เข้ามาพัฒนาระบบการรับรองและมาตรฐาน EV Charging Station ให้กับ ‘MG SUPER CHARGE’ ซึ่งเป็นสถานีชาร์จรถอีวี ณ โชว์รูมและศูนย์ให้บริการรถ MG ทั่วประเทศรวม 108 แห่ง ทั้งยังทุ่มงบประมาณ 500 ล้านบาท ในการติดตั้งสถานีชาร์จเพิ่มอีก 500 แห่งภายในปีนี้
MG SUPER CHARGE ได้รับการออกแบบให้ใช้งานง่าย เพียงโหลดแอปพลิเคชัน i-SMART เวอร์ชันใหม่ เพื่อใช้ค้นหา จอง และเติมเงินก่อนเริ่มชาร์จรถอีวี โดยค่าบริการชาร์จช่วง Off Peak วันจันทร์-วันศุกร์ ตั้งแต่ 22.00-08.00 น. และวันเสาร์-วันอาทิตย์ ตลอด 24 ชม. อยู่ที่ 6.5 บาทต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง และในช่วงเวลา Peak วันจันทร์-วันศุกร์ 08.00-22.00 น. ราคา 7.5 บาทต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง
ทั้งนี้ สวทช.เปิดเผยถึงนโยบายของกระทรวงพลังงานที่จัดทำ ‘แผนอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ.2558-2579’ (Energy Efficiency Plan: EEP 2015) ซึ่งมีเป้าหมายให้คนไทยใช้รถอีวี 1.2 ล้านคันภายในปี พ.ศ. 2579 โดยได้ร่วมดำเนินการผ่านการทดสอบของศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ หรือ PTEC และตั้งเป้าหมายให้เกิดการใช้งานห้องปฏิบัติการทดสอบแบตเตอรี่ และ EV Charger ในประเทศไทย ซึ่ง MG ร่วมส่งเสริมเป้าหมายนี้ด้วยการติดตั้งสถานีชาร์จ 3 แห่งให้กับ สวทช. ที่อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จังหวัดปทุมธานี อาคารวิจัยโยธี ถนนพระราม 6 กรุงเทพฯ และศูนย์เทคโนโลยีไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (TMEC) อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทราด้วย