แม้ประเทศนอร์เวย์จะเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก และยังพบแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมหาศาล แต่กลับไม่ได้สนับสนุนให้ประชากรใช้พลังงานจากฟอสซิลที่มีอยู่ ตรงกันข้ามกับส่งเสริมนโยบายที่จะช่วยลดการปล่อยมลภาวะ เพื่อมุ่งสู่การเป็นเมืองปลอดมลพิษอย่างสมบูรณ์ใน พ.ศ.2593
เนื่องจากสัดส่วนการปล่อยมลภาวะของนอร์เวย์เกิดจากการคมนาคมในกรุงออสโล ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศ ทางออกในการแก้ปัญหานี้ให้เป็นรูปธรรมมากที่สุด คือการให้ประชากรลดการใช้ยานพาหนะส่วนตัวให้ได้มากที่สุด นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทางการต้องเร่งจัดการการขนส่งสาธารณะให้เป็นระบบพลังงานไฟฟ้า
โดยเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.2565 มีการเปลี่ยนรถบัสสาธารณะที่ยังคงใช้น้ำมันอยู่ 450 คันให้ใช้พลังงานไฟฟ้า ใช้งบประมาณประมาณ 1,600 ล้านบาท แม้อาจดูว่าเป็นจำนวนเงินที่ค่อนข้างสูง แต่หน่วยงานด้านการคมนาคมของนอร์เวย์เห็นถึงความคุ้มค่าในระยะยาว เพราะไม่เพียงช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ และยังช่วยลดปัญหามลภาวะทางอากาศที่ส่งผลต่อสุขภาพของประชากรในประเทศ ที่สำคัญคือช่วยลดภาวะโลกร้อนที่เป็นปัญหาของสังคมโลกอีกด้วย
นอกจากกรุงออสโลจะได้ชื่อว่าเป็นเมืองแรกของโลกที่มีรถบัสสาธารณะที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแล้ว ผลพลอยได้จากโครงการนี้ยังช่วยให้กรุงออสโลเป็นเมืองที่ปลอดมลพิษ ความน่าอยู่ของเมืองจะเป็นแม่เหล็กดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวอยากเดินทางมาเยือนกันมากขึ้น เป็นรายได้งดงามที่เข้าประเทศอีกทางหนึ่ง