Grid Brief
- ประชาชนอีก 0.03% ของประเทศไทยยังไม่มีไฟฟ้าใช้ เพราะอาศัยอยู่ในพื้นที่ติดป่าสงวนหรืออุทยานแห่งชาติ อีกทั้งบางส่วนยังไม่มีเอกสารสิทธิ์ที่จำเป็นต่อการยื่นขอใช้ไฟฟ้า
- Solar Move เป็นระบบผลิตไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์แบบเคลื่อนย้ายได้ คิดค้นโดย กฟภ. และ สวทช. เพื่อใช้กระจายไฟฟ้าสู่พื้นที่ที่อยู่ห่างไกลและยังไม่มีไฟฟ้าใช้
- ไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ช่วยเพิ่มรายได้ต่อครัวเรือน สร้างอาชีพสีเขียวและส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม
หากอ้างอิงจากข้อมูลในปี พ.ศ. 2563 ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) เราจะพบว่ายังมีประชาชนอีกร้อยละ 0.03 ของประเทศไทยที่ไม่มีพลังงานไฟฟ้าใช้ เนื่องจากข้อจำกัดทางกฎหมายบางประการ ดังนั้น นวัตกรรม ‘SolarMove’ จึงถูกคิดค้นขึ้นเพื่อนำพาแสงสว่างเคลื่อนที่ไปสู่ประชาชนเหล่านั้น ด้วยความหวังที่จะพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาให้ดีขึ้น
ไฟฟ้าคือโอกาส
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ (ชาวปกากะญอ) 10 ตำบล ในเขต อ.แม่ละมาด และ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อประธานกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุนสภาผู้แทนราษฎร เรื่องที่หมู่บ้านยังไม่มีไฟฟ้าและสัญญาณอินเทอร์เน็ตใช้ เพราะอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติ แม้ว่าชาวบ้านจากหมู่บ้านบางแห่งจะอยู่ในพื้นที่นั้นมาก่อนก็ตาม นอกจากนี้ ข้อมูลจากการสำรวจของ PEA ยังพบว่า มีครัวเรือนอีกจำนวนมากในภาคใต้ที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ เนื่องจากไม่มีเอกสารสิทธิ์ในการยื่นขอใช้ไฟฟ้า นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ประชาชนขาดการเข้าถึงโอกาสต่างๆ ที่จะมายกระดับคุณภาพชีวิตของพวกเขา
นวัตกรรม SolarMove จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยนำไฟฟ้าเข้าถึงประชาชนได้สะดวกขึ้น ขณะนี้มีพื้นที่ทดสอบการใช้งานแล้ว ได้แก่ พื้นที่บ้านแม่เหลอ จ.แม่ฮ่องสอน พื้นที่บ้านหม่องกั๊วะ จ.ตาก พื้นที่บ้านปิล๊อคคี่ จ.กาญจนบุรี และพื้นที่บ้านคีรีล้อม จ.ประจวบคีรีขันธ์
ไฟฟ้าเคลื่อนที่
เพื่อให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลหรือในถิ่นทุรกันดารได้มีไฟฟ้าใช้ กองทุนวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีของ PEA ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จึงคิดค้นพัฒนานวัตกรรมขึ้นมา ในชื่อ SolarMove ซึ่งถือเป็นต้นแบบระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์แบบเคลื่อนย้ายได้ เพื่อใช้งานในชุมชนพื้นที่ห่างไกล
SolarMove มีลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก สามารถเปิดกางแผงโซลาร์ที่พับไว้ภายในออกได้ โดยอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งในส่วนผลิตและส่วนกักเก็บจะติดตั้งอยู่ในชุดเดียวกัน และจ่ายพลังงานไฟฟ้าได้ทั้งระบบไฟฟ้ากระแสตรงและระบบไฟฟ้ากระแสสลับ จึงไม่ต้องยุ่งยากในการติดตั้งโครงสร้างถาวร ทั้งยังดูแลซ่อมแซมสะดวก
นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันอื่นๆ ที่ปรับได้ตามการใช้งาน เช่น มีไฟฟ้าส่องสว่าง มีระบบตรวจสอบสถานะการทำงานของอุปกรณ์ มีระบบวัดปริมาณไฟฟ้าสำรองที่เหลือและระบบเพิ่มกำลังการจ่ายไฟฟ้า เป็นต้น
นวัตกรรม SolarMove จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยนำไฟฟ้าเข้าถึงประชาชนได้สะดวกขึ้น ขณะนี้มีพื้นที่ทดสอบการใช้งานแล้ว ได้แก่ พื้นที่บ้านแม่เหลอ จ.แม่ฮ่องสอน พื้นที่บ้านหม่องกั๊วะ จ.ตาก พื้นที่บ้านปิล๊อคคี่ จ.กาญจนบุรี และพื้นที่บ้านคีรีล้อม จ.ประจวบคีรีขันธ์
แสงอาทิตย์: พลังสีเขียว
กรีนพีซประเทศไทยและผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจและพลังงาน ได้จัดทำ “ปฏิวัติพลังงาน 1 ล้านหลังคาเรือน ภายใน 3 ปี” ด้วยข้อเสนอในการนำเทคโนโลยีโซลาร์เซลล์เข้ามาติดตั้งบนหลังคาครัวเรือน โรงเรียน และ โรงพยาบาล หนึ่งล้านหลังคาเรือนภายใน 3 ปี (พ.ศ. 2564-2566) เพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยและชะลอวิกฤตโลกร้อนได้ด้วย
รายละเอียดในข้อเสนอนี้ คือการติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) 3,000 เมกะวัตต์ในระยะเวลา 3 ปี จะช่วยลดมลพิษในอากาศจากการปล่อยออกไซด์ของไนโตรเจน (NOX) ลงได้ประมาณ 10,098 ตันต่อปี และจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประมาณ 4.52 ล้านตันต่อปี เทียบเท่ากับการดูดซับของพื้นที่ป่า 3 ล้านไร่
นอกจากจะช่วยให้ครัวเรือนประหยัดค่าไฟฟ้า 10,403 ล้านบาทต่อปีแล้ว ยังช่วยให้เกิดการจ้างงานของภาคเศรษฐกิจสีเขียวที่เป็น ‘อาชีพแห่งอนาคต’ ในระดับโลก เช่น เจ้าหน้าที่ติดตั้ง 38,333 ตำแหน่ง พนักงานดูแลรักษา 15,000 ตำแหน่ง วิศวกรมากกว่า 3,750 ตำแหน่ง ช่างเทคนิค 15,500 ตำแหน่ง และ ฝ่ายบริหาร/ธุรการประมาณ 5,000 ตำแหน่ง อีกทั้งยังมีการคาดการณ์ว่า การติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปนี้จะทำให้เกิดการกระจายรายได้ให้แรงงานได้ประมาณ 3,200 ล้านบาทต่อปีเลยทีเดียว
พลังแสงอาทิตย์จึงไม่ใช่แค่การให้แสงสว่างและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแก่ประชาชนในพื้นที่นั้น แต่ยังหมายถึงคุณภาพชีวิตของกลุ่มแรงงานที่เกี่ยวข้องกับการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปและคุณภาพของสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นด้วยเช่นกัน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SolarMove ได้ที่:
- สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สสวท.) โทร.0-2564-7000 Call Center โทร. 0-2564-8000
- การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) โทร. 0-2589-0100 ถึง 1 Call Center โทร. 1129
Cover Illustration โดย Pattanaphoom P.
ที่มา
- https://www.worldbank.org/en/news/feature/2020/08/13/lighting-up-africa-bringing-renewable-off-grid-energy-to-communities
- https://www.matichon.co.th/politics/news_1969490
- https://www.komchadluek.net/news/government-of-thailand/448301
- https://www.greenpeace.org/thailand/story/17144/climate-netmetering-one-million-solar-revolutions-on-home-rooftop/