Grid Brief
- ผลิตภัณฑ์นม เช่น นม โยเกิร์ต คีเฟอร์ ไอศกรีม เนย ชีส ซาวร์ครีม ฯลฯ ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 2.5 กิโลกรัมต่อลิตร
- Straus Family Creamery ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์นมออร์แกนิกในสหรัฐอเมริกา ยกระดับความกรีนไปอีกขั้นด้วยการ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งสายพานการผลิต จากฟาร์ม โรงงาน สู่ผู้บริโภคให้ได้ 100% ภายในปี 2573
- Straus Family Creamery เป็นผู้ผลิตสินค้าจากนมรายแรกๆ ในโลกที่ใช้วิธี ‘ลดคาร์บอนปุ๊บ รับปั๊บเงินรางวัล’ มอบเงินจูงใจให้ฟาร์มปศุสัตว์ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ตามเกณฑ์
นม โยเกิร์ต คีเฟอร์ ไอศกรีม เนย ชีส ซาวร์ครีม และผลิตภัณฑ์นมอื่น ๆ นั้น แต่ละลิตรที่เราบริโภคกันอย่างเอร็ดอร่อยล้วนแลกมาด้วยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 2.5 กิโลกรัมต่อลิตร โดย 2 ประเทศที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนฯมากที่สุด ได้แก่ อินเดีย 1.68 กิโลกรัมต่อนม 1 ลิตร และจีน 2.05 กิโลกรัมต่อนม 1 ลิตร
เมื่อรวมกันทั้งโลก การผลิตสินค้าจากนมเหล่านี้รับผิดชอบ 2-3% จากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งโลกรวมกัน ดังนั้น ไม่ผิดนัก หากจะกล่าวว่า ‘น้ำนมหยดเดียวสะเทือนถึงดวงดาว’
ค่าตอบแทนสร้างแรงจูงใจให้ลดโลกรวน
องค์กรบางแห่งจ่าย Incentive หรือเงินรางวัล/ค่าตอบแทน ที่ใช้สร้างแรงจูงใจและกระตุ้นให้พนักงานทุ่มเททำงานมากขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ และ Incentive ก็ใช้จูงใจให้คนอยากรักษ์โลกได้เช่นกัน
Straus Family Creamery ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์จากนมเจ้าดังในสหรัฐอเมริกาฝั่งตะวันตก ซึ่งมีสินค้าออร์แกนิกมากมาย ตั้งแต่นมสด โยเกิร์ต คีเฟอร์ ไอศกรีม เนย ฯลฯ จึงเป็นแบรนด์ขวัญใจสายนมเนยแบบปลอดสารเคมีมากว่า 30 ปี ล่าสุดทางแบรนด์ยกระดับความคลีนไปอีกขั้น ถึงขั้นตอนการเลี้ยงปศุสัตว์ที่ให้น้ำนมตามฟาร์มต่าง ๆ ที่ส่งน้ำนมให้ว่า ต้องลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้ 100% ภายในปี 2573 และจะรับซื้อน้ำนมจากฟาร์มที่ทำได้เท่านั้น
Straus Family Creamery เพิ่มแรงจูงใจด้วยการมอบค่า Incentive ให้กับฟาร์มที่ทำได้ตามเป้า เพราะอยากให้การทำปศุสัตว์ที่มักถูกเหมาว่าเป็นตัวการใหญ่ที่ทำโลกร้อน ยังสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้โดยอาศัยนวัตกรรมใหม่ ๆ มารับมือกับปัญหานี้
Straus Family Creamery จึงกลายเป็นผู้ผลิตสินค้าจากนมรายแรก ๆ ในโลกที่ใช้วิธีสุดสร้างสรรค์ ‘ลดคาร์บอนปุ๊บ รับปั๊บเงินรางวัล’
ทำฟาร์มอย่างไรให้ได้เงินจูงใจ
ปีแรกที่เริ่มทำโครงการ ‘ลดคาร์บอนปุ๊บ รับปั๊บเงินรางวัล’ Straus Family Creamery จ่ายเงินจูงใจแก่ฟาร์มต่าง ๆ ไปแล้ว 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยจ่ายเงินเป็นรายเดือนให้กับฟาร์มต่าง ๆ ที่ผ่านเกณฑ์ของโปรแกรมเกษตรออร์แกนิกของกระทรวงเกษตรแห่งสหรัฐอเมริกา ดังต่อไปนี้
- ฟาร์มมีการจัดการพื้นที้ด้วยระบบเกษตรกรรมฟื้นฟู (Regenerative Agriculture) ที่ไม่ใช่แค่ทําอันตรายต่อผืนดินเท่านั้น แต่ช่วยปรับปรุงคุณภาพและคืนสมดุลให้กับดินและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ดินมีสุขภาวะดี
- มีการจัดการมูลสัตว์ (Manure Management) ที่ลดการปล่อยน้ำเสียให้ได้อย่างน้อย 80% โดยใช้การย่อยสลายแบบไม่ใช้ออกซิเจน (Anaerobic Digestion) และวิธีการอื่น ๆ เช่น การหมักปุ๋ย
- เลิกใช้ไฟฟ้าที่ได้จากเชื้อเพลิงฟอสซิล แล้วหันไปใช้เครื่องผลิตไฟฟ้าจากก๊าซมีเทนในมูลสัตว์แทน
- ลดการปล่อยก๊าซมีเทนในลำไส้ปศุสัตว์ (วัวเรอและผายลมออกมาเป็นก๊าซมีเทน) โดยหันไปใช้วัตถุที่เติมในอาหารสัตว์แบบออร์แกนิก เช่น สาหร่ายสีแดง (Asparagopsis Taxiformis) เนื่องจากก๊าซมีเทนที่มาจากการเรอและผายลมของวัวคิดเป็น 15% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก งานวิจัยจาก College of Agricultural and Environmental Sciences ชี้ว่า การให้วัวกินสาหร่ายทะเลสีแดงแทนหญ้าจะช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซมีเทนได้ถึง 80%
โปรแกรมเงินจูงใจของ Straus Family Creamery เน้นที่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยตัวเอง (Reduce GHGs) ไม่ใช่การซื้อคาร์บอนเครดิตมาชดเชย (Carbon Credit) เช่น ฟาร์มยังคงใช้วิธีเดิมต่อไป แล้วไปปลูกป่าแอฟริกาเพื่อชดเชยปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยสู่สิ่งแวดล้อมให้เท่ากับศูนย์ แบบนี้ก็จะไม่ผ่านเกณฑ์
ผลิตภัณฑ์นมสายกรีน
แม้จะมีเกณฑ์ที่ดูทำตามได้ยาก ทว่าก็มีฟาร์มในอเมริกาเข้าร่วมโครงการแล้ว 3 แห่ง ได้แก่ Moretti Family Farm, Robert McClelland Dairy และ Nosecchi Family Dairy
Straus Family Creamery เป็นแบรนด์แรกในอเมริกาที่ได้ตรารับรองผลิตภัณฑ์นมออร์แกนิก 100% เมื่อปี 2537 อีกทั้งเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์นมรายแรกในทวีปอเมริกาเหนือที่ได้ผ่านการตรวจสอบว่าไม่มีการดัดแปลงพันธุกรรมในปี 2553 และเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์นมรายแรกของโลกที่ได้รับตรารับรองมาตรฐานการลดขยะให้เหลือศูนย์จาก TRUE® Zero Waste Certification จนล่าสุดเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์นมรายแรกในโลกที่ใช้โปรแกรมแจกเงินจูงใจเพื่อลดก๊าซเรือนกระจก