Grid Brief
- การทำงานแบบ Work from Home ทำให้หลายคนประสบปัญหาการแบ่งเวลาในการใช้ชีวิตและการทำงานกันไม่มากก็น้อย ก่อนที่ความเครียดจะมาเยือน ลองนำเคล็ดลับสร้าง Work Life Balance เหล่านี้ไปใช้กัน
- กฎการทำงานแบบ 70/20/10 คือการแบ่งเวลาในชีวิตให้ 70% เป็นการพักผ่อนแบบแอคทีฟ 20% เพื่อฝึกฝนทักษะใหม่ที่สนใจ และ 10% ให้ทุ่มเทกับการทำงาน
- สร้างแรงบันดาลใจด้วยคำกล่าวของซีอีโอชื่อดังระดับโลกที่ประสบความสำเร็จจากการนำเอาแนวคิด Work Life Balance มาปฏิบัติจริง
“เราทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากันใน 1 วัน แต่คนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่แบ่งและใช้เวลาได้คุ้มค่าที่สุด”
ถ้าใครทำอย่างคำกล่าวนี้ได้ ย่อมเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน แต่การทำจริงกลับไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด ยิ่งในช่วงนี้ที่หลายคนต้องทำงานแบบ Work from Home การจัดสรรเวลาเพื่อสร้างสมดุลระหว่างชีวิตประจำวันและการทำงานตามแนวคิด Work Life Balance จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
เคล็ดลับสร้างสมดุลระหว่างการใช้ชีวิตและการทำงานมีหลายรูปแบบ ซึ่งล่าสุด บทความเรื่อง “Work ให้ Balance ด้วยกฎการทำงานแบบ 70/20/10” โดยคุณรวิศ หาญอุตสาหะ ซีอีโอแบรนด์เครื่องสำอางศรีจันทร์ ได้ตีความทฤษฎีการทำงานแบบ 70/20/10 ในแง่มุมที่ต่างออกไป ด้วยการนำกฎนี้มาปรับใช้เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับสร้าง Work Life Balance ของตัวเองอย่างได้ผล
เดิมทีกฎการทำงานแบบ 70/20/10 เป็นวิธีการเพิ่มพูนทักษะการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง ที่มาจากหนังสือชื่อ ‘Lessons of Experience: How Successful Executives Develop on the Job’ เขียนโดย Morgan McCall, Michael Lombardo และ Robert โดยให้เรียนรู้จากงานที่เราทำ 70% เรียนรู้จากผู้อื่น 20% และเรียนรู้เพิ่มเติมจากการเข้าคอร์สเพิ่มพูนทักษะ 10% ซึ่งมีบริษัทยุคใหม่ที่นำกฎนี้ไปปรับใช้กับพนักงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและศักยภาพขององค์กรกันอย่างแพร่หลาย
สูตรสร้าง Work Life Balance ที่ได้ผลจริง
อย่างไรก็ดี ในบทความของคุณรวิศ ซีอีโอศรีจันทร์ ชี้ให้เห็นว่า ในความเป็นจริง ชีวิตเรามีมากกว่าเพียงแค่ตื่นมาทำงานแล้วก็เข้านอนเท่านั้น เพราะเรายังมีคนที่ต้องดูแล มีกิจกรรมอื่น ๆ ในชีวิตที่ต้องทำ ดังนั้น จึงขอแบ่งกฎการ Work ให้ Balance เป็น 70% พักผ่อน 20% ฝึกฝน และ 10% ทุ่มเท
กฎการทำงานแบบ 70/20/10 คือการแบ่งเวลาในชีวิตให้ 70% เป็นการพักผ่อนแบบแอคทีฟ 20% เพื่อฝึกฝนทักษะใหม่ที่สนใจ และ 10% ให้ทุ่มเทกับการทำงาน
70% พักผ่อน : ในที่นี้ไม่ได้แปลว่าให้นอนทั้งวัน แต่การพักผ่อนในที่นี้ หมายถึง “การพักผ่อนแบบแอคทีฟ” คือ การคิดและลงมือทำอะไรสักอย่างในเชิงสร้างสรรค์ เช่น การปลูกผักกินเอง การทำงานฝีมือ หรือการออกไปเที่ยวนอกบ้านกับเพื่อนฝูงและครอบครัว ก็เป็นการพักผ่อนที่ดี ซึ่งสามารถนำมาต่อยอดเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานอย่างมีความสุขได้
20% ฝึกฝน : ลองใช้เวลาสัก 4-5 ชั่วโมงต่อวัน ลงเรียนในคอร์สออนไลน์เพื่อพัฒนาทักษะที่ตนเองสนใจ หรือออกกำลังกายเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้สุขภาพแข็งแรง ซึ่งการฝึกฝนในแต่ละวันนี่เองที่เป็นการเตรียมพร้อมสมองและร่างกายสำหรับสิ่งที่เราต้องเผชิญในวันพรุ่งนี้
10% ทุ่มเท : ไม่ว่าจะต้องเจออุปสรรคใด ๆ ในการทำงาน ขอให้เผชิญหน้ากับปัญหาที่เกิดขึ้น ใช้ทุกทักษะที่มีเพื่อแก้ไข และเดินหน้าต่อไป เพียงเท่านี้ผลงานก็จะออกมาดีมีคุณภาพ และยังเป็นการแสดงให้องค์กรเห็นด้วยว่าคุณมีศักยภาพมากเพียงใด
ถ้าทำได้เช่นนี้ จะรู้ได้ทันทีว่า เราไม่ได้ใช้เวลาไปกับการทำงานมากมายขนาดนั้น แต่หลายคนกลับตะบี้ตะบันทำงานทั้งวันโดยไม่พักผ่อน พอหมดวันก็จะไม่มีแรงเหลือไปผ่อนคลายกับงานอดิเรกหรือพัฒนาทักษะอื่น ๆ ซึ่งไม่ส่งผลดีอย่างแน่นอนในระยะยาว
เรียนรู้หลักการแบ่งเวลาจากเหล่าซีอีโอระดับโลก
เพื่อให้เห็นภาพการนำกฎ 70-20-10 มาใช้ในการแบ่งเวลา เพื่อสร้าง Work Life Balance มากขึ้น ขอหยิบเอาคำกล่าวของเหล่าซีอีโอชื่อดังระดับโลกที่พูดถึงวิธีการสร้างสมดุลชีวิตการทำงาน ชีวิตครอบครัว ตลอดจนชีวิตส่วนตัว มาแชร์กันด้วย