Grid Brief

  • ว่ากันว่า Marion Smith คือผู้ริเริ่มปลูกดอกไม้กินได้ (Edible Flower) เธอก่อตั้งธุรกิจที่ชื่อว่า Petal & Co ในปี 2560 เพื่อเปิดโอกาสให้เชฟและคนทำขนมปังในไครสต์เชิร์ชและแคนเทอเบอรี ประเทศนิวซีแลนด์ นำเอาดอกไม้และใบไม้สดที่กินได้ในท้องถิ่นไปทำอาหาร ซึ่งในเวลาต่อมาได้ขยายวงกว้างไปยังร้านอาหารและบาร์ต่าง ๆ
  • ดอกไม้กินได้นอกจากจะเพิ่มสีสันให้กับเมนูอาหารและเครื่องดื่มแล้ว ยังมีสรรพคุณทางยา และให้รสชาติที่แตกต่างกันตามสีสันและชนิดของดอกไม้
  • ดอกไม้กินได้ในเมืองไทยที่นิยมนำมาทำอาหาร เช่น ดอกอัญชัน ดอกดาหลา ดอกกระเจียว ดอกเฟื่องฟ้า

นับตั้งแต่ที่มนุษย์เรารู้จักนำเอาพืชผักมาเป็นส่วนประกอบของอาหารเมื่อหลายแสนปีก่อน เชื่อไหมว่าในจำนวนพืชผักเหล่านั้นกลับพบว่ามีดอกของมันรวมอยู่ด้วย และปัจจุบันดอกไม้แสนสวยที่สร้างสีสันให้โลกใบนี้ ก็ได้กลายเป็นส่วนประกอบหนึ่งของเมนูจานเด็ดและเครื่องดื่มอีกหลายชนิด

Credit: Petal & Co

อะไรคือ ‘ดอกไม้กินได้’

Todd Seyfarth นักโภชนาการ เชฟ และหัวหน้าภาควิชาโภชนาการและโภชนศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยจอห์นสันแอนด์เวลส์ ได้ให้นิยามของคำว่า ดอกไม้กินได้ (Edible Flower) ไว้ว่า คือดอกไม้ที่ปลูกด้วยวิธีที่ปลอดภัยและสามารถนำมาประกอบอาหารได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีการใช้ยาฆ่าแมลงหรือสารกันบูด และต้องไม่มีสารประกอบใดที่ระบุว่าเป็นอันตรายหรือมีพิษตามธรรมชาติ

Credit: Petal & Co

ว่ากันว่า จุดเริ่มต้นของการนำดอกไม้มากินมาจาก Marion Smith ผู้ปลูกดอกไม้กินได้ในสวนชนบทที่บ้าน และในปี 2560 เธอก่อตั้งธุรกิจ Petal & Co ขึ้นมา โดยมีเป้าหมายที่อยากให้เชฟและคนทำขนมปังในไครสต์เชิร์ชและแคนเทอเบอรี ประเทศนิวซีแลนด์ ได้มีโอกาสเข้าถึงดอกไม้และใบไม้สดที่กินได้ในท้องถิ่น ทั้งนี้ Marion Smith ปล่อยให้ดอกไม้ในสวนเติบโตตามธรรมชาติในดินที่อุดมด้วยปุ๋ยหมัก เพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด และยังทำให้ดอกไม้ไม่ตายเร็ว

ดอกดาวเรืองมีคุณสมบัติต้านไวรัสและต้านการอักเสบ ดอกกุหลาบช่วยบรรเทาอาการหวัด การติดเชื้อทางเดินหายใจ รักษากระเพาะอักเสบ ท้องเสีย เพิ่มการไหลเวียนเลือด ขณะที่ดอกลาเวนเดอร์ช่วยลดอาการ ท้องอืด ท้องเฟ้อ และกลิ่นของลาเวนเดอร์ยังช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี

สรรพคุณยาจากดอกไม้กินได้

ประเทศไทยเองมีดอกไม้กินได้ที่รู้จักกันทั่วไป ซึ่งแต่ละชนิดมักมีรสชาติและให้สรรพคุณที่แตกต่างกัน เช่น ดอกอัญชันช่วยต้านอนุมูลอิสระและเสริมสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกาย ดอกดาหลามีสรรพคุณคล้ายกับขิง ข่า แก้ลมพิษ แก้โรคผิวหนัง ขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ดอกกระเจียวช่วยขับลม บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และลดกรดในกระเพาะอาหาร ส่วนดอกเฟื่องฟ้าช่วยบำรุงหัวใจและระบบขับถ่าย ใช้เป็นยาแก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี 

ดอกดาวเรืองมีคุณสมบัติต้านไวรัสและต้านการอักเสบ ดอกกุหลาบช่วยบรรเทาอาการหวัด การติดเชื้อทางเดินหายใจ รักษากระเพาะอักเสบ ท้องเสีย เพิ่มการไหลเวียนเลือด ขณะที่ดอกลาเวนเดอร์ช่วยลดอาการ ท้องอืด ท้องเฟ้อ และกลิ่นของลาเวนเดอร์ยังช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี 

Credit: Nick Fewings

สีสันของดอกไม้ให้รสชาติที่แตกต่างกัน

รสชาติของดอกไม้กินได้นั้นมีตั้งแต่รสอ่อนนุ่มไปจนถึงรสจัดจ้าน เช่น Violas เป็นดอกไม้ที่ให้รสชาติอ่อนนุ่ม ดอก Nasturtium ให้รสจัด ในขณะที่ลาเวนเดอร์และกุหลาบมีรสชาติหวานละมุนและฝาดตามลำดับ นอกจากนี้ ดอกไม้บางชนิดยังสามารถกินได้ทั้งดอกโดยที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เช่น Pansy, Violas, Campanulas แต่โดยส่วนใหญ่มักจะเด็ดเฉพาะกลีบออก อย่างไรก็ตาม ดอกไม้กินได้เหล่านี้มักนิยมกินคู่กับอาหารมากกว่าเด็ดแล้วกินสด ๆ เช่น นำไปโรยบนอาหาร บนซุป หรือทำเป็นเมี่ยงดอกไม้ ตลอดจนสามารถกินเป็นเครื่องเคียงขนมจีนแทนผักสดก็อร่อยไปอีกแบบ

จะว่าไปแล้ว ดอกไม้กินได้หลายชนิดยังอาจพบเห็นได้ทั่วไป และสามารถเติบโตได้เองจากเมล็ดพันธุ์ที่ร่วงหล่นบนดิน หากลองสำรวจริมรั้วบ้านหรือในสวนของเรา บางทีดอกไม้พวกนี้อาจจะอยู่ในบ้านแล้วก็ได้

Cover Photography: Jovan Vasiljević