Grid Brief
- พืชจิ๋วที่สุดในโลก พืชโตเร็วที่สุดในโลก พืชที่ช่วยดูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้เป็น 3 เท่าของผืนป่าในพื้นที่ที่เท่ากัน พืชชนิดเดียวที่มีวิตามิน B12 ตามธรรมชาติ และอยู่ในรูปที่ร่างกายมนุษย์สามารถดูดซึมนำไปใช้ได้จริง เหลือเชื่อแต่เป็นไปแล้วที่คุณสมบัติชั้นเลิศเหล่านี้มีอยู่ในพืชหนึ่งเดียวนี้ที่ชื่อ ‘ไข่ผำ’
ผำ ไข่น้ำ ไข่ผำ วูล์ฟเฟีย ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นชื่อเรียกของพืชจิ๋วแต่แจ๋วที่หาได้ทั่วไปในท้องถิ่นไทย และคนไทยเองก็รับประทาน ‘ซูเปอร์ฟู้ด’ ‘โปรตีนแห่งอนาคต’ ชนิดนี้กันมานานแล้ว ทว่า ไข่ผำยิ่งทวีความน่าสนใจในช่วงเวลาที่มนุษย์มองหาแหล่งอาหารใหม่ ๆ ที่เยียวยาโลกและอิ่มท้องไปพร้อมกัน
ไข่ผำเป็นพืชไม่มีราก รสจืด ไม่มีกลิ่น ลักษณะเป็นเม็ดเล็ก ๆ สีเขียวทรงกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 0.1 – 0.2 มิลลิเมตร เป็นพืชดอกขนาดเล็กที่สุดในโลก จัดเป็นแหนชนิดหนึ่งแต่พบได้ในแหล่งน้ำสะอาดเท่านั้น หากที่ใดมีไข่ผำก็เท่ากับยืนยันความสะอาดของแหล่งน้ำนั้น ๆ ได้
ผลการศึกษาจากทีมวิจัย คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า ไข่ผำมีปริมาณโปรตีนสูง เจริญเติบโตได้ไว ใช้ทรัพยากรการผลิตต่ำ สามารถให้ผลผลิตโปรตีนสูงกว่าถั่วเหลืองเมื่อเทียบในพื้นที่การเพาะปลูกที่เท่ากัน มีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วนและอุดมด้วยสารอาหารที่จำเป็นอีกมากมาย อาทิ เหล็ก แคลเซียม สังกะสี ช่วยเสริมกระดูก การไหลเวียนโลหิตและเพิ่มภูมิคุ้มกัน
นอกจากนี้ ไข่ผำยังมีวิตามิน บี 12 ที่ช่วยในการทำงานของระบบประสาทและอยู่ในรูปที่ร่างกายมนุษย์สามารถดูดซึมนำไปใช้ได้จริง ซึ่งไม่พบในผลิตภัณฑ์จากพืชตามธรรมชาติชนิดอื่น และยังมีวิตามินอื่น ๆ อีก เช่น วิตามินเอ ลูทีน ซีอาแซนทิน ช่วยบำรุงสายตา วิตามินบี-คอมเพล็กซ์ วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเค โฟเลต ซีอาแซนทิน ลูทีน และสารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ ในระดับสูง
ข้อมูลจากกองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ไข่ผำสด 100 กรัม มีโปรตีน 0.6 กรัม คาร์โบไฮเดรต 1.5 กรัม แคมเซียม 59 กรัม ให้พลังงาน 9 กิโลแคลอรี ไข่ผำจึงเป็นแหล่งอาหารที่ให้โปรตีนจากพืชในปริมาณสูง แต่แคลอรี แป้ง น้ำตาลและไขมันต่ำ เหมาะกับผู้ที่ต้องการคุมน้ำหนัก ทั้งยังมีไฟเบอร์ชนิดดีจากธรรมชาติที่จะช่วยปรับสมดุลระบบย่อยอาหาร โปรไฟล์ของกรดอะมิโนของไข่ผำยังคล้ายกับเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์อาหารนมที่มี BCAA สูง (Branched Chain Amino Acids กลุ่มของกรดอะมิโนจำเป็น (Essential Amino Acid) ที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ ต้องได้จากการรับประทานอาหารเท่านั้น) และมีกรดอะมิโนกำมะถันที่มักพบได้น้อยในโปรตีนจากพืชทั่วไป
ไข่ผำยังเป็นพืชที่โตเร็วที่สุดในโลก ใช้เวลาเพียง 3 – 7 วันก็โตมากเป็น 2 เท่า และเป็นพืชที่ดูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้เป็น 3 เท่าของผืนป่าในพื้นที่ที่เท่ากัน
ไข่ผำมีรสจืด จึงปรุงกับเมนูใด ๆ ได้ง่าย แม้คนไม่ชอบผักก็อาจกินไข่ผำได้เยอะโดยไม่รู้ตัว เด็กเล็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปกินไข่ผำได้ เช่นเดียวกับผู้สูงอายุ
ซูเปอร์ฟู้ดอยู่ในบ่อ รออะไร
…แต่ช้าก่อน ด้วยความที่แหล่งน้ำตามธรรมชาติทุกวันนี้มักเจือสารปนเปื้อน ไข่ผำตามธรรมชาติจึงอาจเสี่ยงต่อสารพิษต่าง ๆ ได้ อาจมองหาไข่ผำทางเลือกจากแบรนด์ที่น่าเชื่อ ซึ่งเริ่มมีคนสนใจทำธุรกิจผลิตไข่ผำ เนื่องจากเป็นซูเปอร์ฟู้ดที่คนรักสุขภาพต้องการ การเพาะเลี้ยงไข่ผำมีข้อดีตรงที่ใช้พื้นที่และน้ำน้อย ทั้งยังเป็นพืชที่ไม่มีศัตรูพืชจึงไม่จำเป็นต้องใช้ยาฆ่าแมลง ความท้าทายอย่างเดียวในการเพาะเลี้ยงผำในเชิงพาณิชย์ ก็คือต้องดูแลไม่ให้มีสาหร่ายเกิดขึ้น
ปัจจุบันมีการเพาะเลี้ยงไข่ผำด้วยเทคโนโลยีที่แม่นยำจาก Advanced GreenFarm เพาะเลี้ยงในน้ำสะอาด ควบคุมการเลี้ยงในฟาร์มกึ่งปิด มีการตรวจเชื้อและควบคุมคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ โดยผงผำอบแห้ง 100% ผลิตจากผำสดที่เพาะเลี้ยงในฟาร์ม 100 กิโลกรัม เพื่อให้ได้ผำผง 100% ประมาณ 5 กิโลกรัม โดยผ่านการอบด้วยนวัตกรรมพิเศษ อบแห้งภายใต้สุญญากาศ เพื่อรักษาคุณค่าทางอาหาร สีสัน และอโรมา
ก่อนจะนำไปบดละเอียดด้วยเทคโนโลยีเครื่องบดแบบพิเศษ เพื่อให้ชงง่าย แม้ในน้ำเย็น และไม่ต้องร่อนผงก่อนชง บริโภคง่าย ไม่ว่าจะชงเป็นเครื่องดื่ม โรยบนอาหารจานโปรด ทำขนม เบเกอรี โดย 1 เสิร์ฟ (5 กรัม) ของผงผำเท่ากับได้รับประทานผำสด 100 กรัม ได้รับโปรตีน 40% รวมไปถึงวิตามินและสารอาหารอื่น ๆ
ลองหาไข่ผำในรูปแบบที่ชอบมาลิ้มลอง มีทั้งไข่ผำสด ผำผงโรยหน้าอาหาร และผำชงดื่มรสชาติต่าง ๆ