Grid Brief
- ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากยานยนต์ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ ที่ส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว
- การบริโภคเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ให้น้อยลง ก็ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากการขนส่งได้แล้ว
จุดเริ่มต้นในการเปลี่ยนแปลงโลกนั้น เริ่มต้นได้จากส่วนที่เล็กที่สุดก็คือตัวเรา ต่อไปนี้เป็นไอเดียการเริ่มต้นทำสิ่งเล็กๆ ที่ ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการช่วยกันเปลี่ยนโลกใบเดิมให้น่าอยู่มากขึ้นได้
จอดรถแล้วลองเดิน หรือ ขี่จักรยานดูบ้าง
รู้หรือไหมว่า รถยนต์ส่วนบุคคลปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 4.6 เมตริกตันต่อปี ซึ่งไม่เพียงทำให้เกิดภาวะเรือนกระจกเท่านั้น แต่มลพิษทางอากาศที่เกิดจากไอเสียของยานพาหนะยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้คน และเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคสมองเสื่อมอีกด้วย ฉะนั้น ลองจอดรถไว้ที่บ้าน แล้วหันมาใช้การเดินหรือการขี่จักรยานแทนกันดู
นอกจากการเดินหรือปั่นจักรยานจะได้ประโยชน์ด้านสุขภาพกายและใจแล้ว ผลพลอยได้ที่ตามมาคือการประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง แต่หากต้องเดินทางไกลและระบบขนส่งสาธารณะนั้นไม่ตอบโจทย์ชีวิต ทำให้จำเป็นต้องใช้รถยนต์ ลองวางแผนแชร์การใช้รถกับเพื่อนบ้านหรือเพื่อนร่วมงานที่ใช้เส้นทางเดียวกัน หรือการเปลี่ยนจากรถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซลหรือเบนซินมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าหรือไฮบริด
กินเนื้อสัตว์ และ นมให้น้อยลง
อุตสาหกรรมผลิตเนื้อสัตว์ และ นมนั้นปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากเป็นอันดับต้นๆ เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่น ฉะนั้น การเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ในมื้ออาหารของแต่ละวัน เช่น เลือกวัตถุดิบอาหารที่สดใหม่ตามฤดูกาล และ ปลูกได้ในท้องถิ่น ทำให้การขนส่งน้อยลง การสิ้นเปลืองพลังงานและการปล่อยก๊าซพิษจากการขนส่งก็ลดตามไปด้วย และเมื่อคนบริโภคแต่ของสดใหม่ ก็ช่วยประหยัดพลังงานในการเก็บรักษาและการแช่เย็นเพื่อยืดอายุวัตถุดิบลงด้วย เพียงเท่านี้ก็เท่ากับได้ช่วยโลกแล้วล่ะ
ฝึกการประหยัดพลังงานให้เป็นนิสัย
การ WFH ทำให้ได้อยู่บ้านมากขึ้น แต่คุณสามารถประหยัดการใช้พลังงานให้น้อยลงได้ อาทิ ปิดไฟและถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งานแล้ว เปลี่ยนหลอดไฟเป็นหลอด LED หรือหลอดไฟพลังงานต่ำอื่นๆ เปลี่ยนหัวฝักบัวเป็นแบบประหยัดน้ำ อย่าลืมตรวจสอบด้วยว่าที่หลังคาบ้านมีฉนวนกันความร้อนที่เหมาะสมหรือไม่ หรือ หันมาใช้แผงโซลาร์เซลล์ก็ช่วยให้ประหยัดพลังงานไฟฟ้าและช่วยลดค่าใช้จ่ายในบ้านได้เหมือนกัน
ลดการบริโภคและการสร้างอาหารเหลือทิ้ง
ทุกสิ่งที่เราใช้ในฐานะผู้บริโภคล้วนทำให้เกิด Carbon Footprint หรือปริมาณของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซเรือนกระจกอื่น ๆ ทุกอย่างต่างมีการทิ้งร่องรอยเอาไว้ ดังนั้น ควรพยายามหลีกเลี่ยงสินค้าที่ใช้ครั้งเดียว เลือกเครื่องสำอางรีฟิล ใช้บรรจุภัณฑ์รีฟิล พยายามอย่าซื้อของมากเกินความต้องการจนต้องเหลือทิ้ง โดยเฉพาะอาหารหรือของสดที่เก็บได้ไม่นาน หรือซื้อของมือสองที่คุณภาพยังดี เอามาซ่อมแซมแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ หรือการนำสิ่งของที่เหลือใช้ส่งต่อให้ผู้อื่นได้ใช้ประโยชน์ต่อไป
สิ่งเล็ก ๆ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เสมอ เริ่มจากตัวเราในการลด ละ เลิกพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดภาระและเป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
บอกต่อเพื่อจุดประกายความคิดผู้อื่น
การเล่าสู่กันฟังเป็นวิธีที่ดีในการกระจายความคิดที่ยิ่งใหญ่ออกไป โดยเฉพาะยุคนี้ที่เราสามารถใช้โซเชียลมีเดียในทางสร้างสรรค์ หรือบอกเล่าสิ่งที่กำลังทำอยู่ให้กับคนทั่วโลกได้รู้ ไม่แน่นะ! นี่อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างความคิดดีๆ ให้ผู้อื่นเกิดการเปลี่ยนแปลงไปด้วยกันก็ได้
ร่วมกันอนุรักษ์ ปลูกต้นไม้เพื่อขยายพื้นที่สีเขียว
ข้อดีของการมีพื้นที่สีเขียวหรือสวนสาธารณะ คือต้นไม้ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ช่วยควบคุมอุณหภูมิของอากาศ และต้นไม้ยังช่วยซับน้ำลงดินและชะลอความแรงของน้ำไม่ให้ไหลบ่าท่วมในทันที นอกจากนี้ ต้นไม้ยังเป็นที่อยู่อาศัยที่สำคัญของแมลง นก สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำหลากชนิด ช่วยให้ระบบนิเวศมีความสมบูรณ์ขึ้น ซึ่งที่สุดแล้ว มนุษย์ก็ได้รับผลประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ ดังนั้น อย่าลืมช่วยปกป้องและอนุรักษ์สวนสาธารณะ สระน้ำและสวนชุมชนกันอยู่เสมอ
อยู่กับบ้าน เมื่อมีโควิด
หลายคนอาจคิดว่าการต้องอยู่บ้านจากการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้มีการใช้พลังงานเยอะ แต่แท้จริงแล้ว โควิด-19 ก็มีส่วนที่ทำให้คนประหยัดพลังงานอื่นแทน เช่น การทำงานอยู่บ้าน ทำให้ได้ประชุมผ่านระบบออนไลน์ ช่วยลดการใช้พลังงานน้ำมัน และ ลดการปล่อยก๊าซพิษจากยานพาหนะท หรือหากใครจำเป็นต้องเดินทางจริงๆ ควรเลือกจุดหมายปลายทางที่อยู่ใกล้เท่าที่จะเป็นไปได้ และ เลือกเที่ยวบินชั้นประหยัด เนื่องจากโดยเฉลี่ยแล้วผู้โดยสารที่บินในชั้นธุรกิจจะมีปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงกว่าผู้โดยสารชั้นประหยัดมากถึง 3 เท่า
อาจจะไม่ง่ายที่จะเริ่มต้นพร้อมกันทั้ง 9 ข้อ แต่เชื่อเถอะ เมื่อทำได้ 1 ข้อแล้ว ข้ออื่นๆ ก็จะตามมา ช่วยกันคนละไม้คนละมือเพื่อโลกสีเขียวของพวกเรา